ความมั่นคงถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนต่างอยากมีในชีวิต ซึ่งในปัจจุบันมีการลงทุนอยู่หลายวิธีที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าและมีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงินกับธนาคาร ซื้อสลากออมสิน รวมถึงการลงทุนในหุ้น สำหรับใครที่เป็นสายลงทุนมือใหม่การลงทุนแบบ
dca คือ กรุงไทยถือว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและสร้างกำไรได้ไม่น้อย ซึ่งวันนี้วิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือนเราจะพาไปทำความรู้จักกันว่า dca คืออะไร แตกต่างจากการลงทุนแบบอื่นอย่างไร
รู้จักกับ dca คืออะไร ? แตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่นอย่างไรบ้าง
DCA (Dollar Cost Averaging) เป็นการลงทุนแบบ “ถัวเฉลี่ย” ในสินทรัพย์ที่เลือกไว้เป็นจำนวนเงินเท่า ๆ กัน โดยไม่สนใจว่าทรัพย์สินที่เลือกจะมีราคาเท่าไรในขณะนั้น ทำให้ตัวเลขกำไร-ขาดทุนในแต่ละเดือนจะถัวเฉลี่ยกันไป ช่วยลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนแบบก้อนใหญ่ก้อนเดียว มีโอกาสได้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินกับธนาคารเฉย ๆ เพราะ dca คือ การลงทุนที่มีความสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน ไม่ได้เน้นหวังผลตอบแทนในระยะสั้น
ทั้งนี้ dca แตกต่างกับการลงทุนแบบใช้เงินก้อนเดียว (Lump Sum) ตรงที่เป็น
วิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือนกรุงไทย ที่แบ่งเงินลงทุนออกเป็นก้อนเล็ก ๆ หลายก้อนเพื่อซื้อสินทรัพย์หลายรายการในจำนวนเงินเท่า ๆ กันอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ทำให้เม็ดเงินลงทุนที่ลงไปก็ยังสามารถถัวเฉลี่ยกำไร-ขาดทุน ทำให้เกิดผลตอบแทนกลับมาบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนการลงทุนแบบใช้เงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว หากเราจับจังหวะผิดลงทุนแล้วมูลค่าสินทรัพย์ลดลงย่อมขาดทุนหนักเพราะไม่มีกำไรจากสินทรัพย์อื่นมาช่วยถัวเฉลี่ย
ข้อดี-ข้อด้อยของการลงทุนแบบ dca
การลงทุนแบบ dca ช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสช้อนซื้อสินทรัพย์นั้น ๆ ได้มากขึ้นด้วยจำนวนเงินลงทุนเท่าเดิม หากช่วงนั้นราคาต่อหน่วยลดลงก็จะทำให้ซื้อได้มากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากการทุ่มเงินก้อนใหญ่เข้าซื้อสินทรัพย์ผิดจังหวะ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีข้อเสียที่ควรระวัง เนื่องจาก ลงทุน dca คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยกำไร-ขาดทุน ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้ผลตอบแทนน้อย หากลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่ากัน แต่ลงทุนแบบเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวในจังหวะที่เหมาะสมตั้งแต่วันแรกอาจสร้างผลกำไรได้มากกว่า
สำหรับใครที่สนใจการลงทุนแบบ DCA เราสามารถเริ่มต้นด้วยการพิจารณาว่าตัวเองมีความพร้อมที่จะลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนเท่าไรต่อเดือน เนื่องจากจะต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน จากนั้นกำหนดวันและช่วงเวลาในการลงทุน เช่น ลงทุนทุกวันที่ 5 ของทุก ๆ เดือน สำหรับหลักทรัพย์ที่จะเลือกลงทุนนั้นควรพิจารณาหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตได้ เพื่อให้การลงทุนของคุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ถูกใจ หรือลองรู้จักกับdca เพิ่มเติมที่
https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1221 หรือกองทุนssfคืออะไร ที่
https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1223