ตั้งแต่อดีตสมัยจนถึงปัจจุบันเจ้าหลอดใสๆ ก็ให้แสงแก่มนุษย์ในยามราตรีได้ล้วน เริ่มลูกจากเมื่อร้อยกว่าปีก่อนที่หลอดไฟเริ่มมีบทบาทในการใช้ชีวิตของเรา พร้อมทั้งใช้ต่อเนื่องมาถึงประจุบัน มีการเพิ่มพูนต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ จนถึงมาถึงหลอดไฟ LED ในปัจจุบัน พร้อมด้วยมีแนวโน้มในการพัฒนาไปอีกในภายภาคหน้า วันนี้เราจึงมีทางเดินการพันาของเจ้าหลอดไฟนี้มาเล่าสู่กันตรับฟังค่ะ มาเริ่มห้ามในยุคจำเดิมเลยค่ะ หมายความว่า
ยุคหลอดไส้ หรือไม่ชื่ออย่างเป็นทางการว่า หลอด Incandescent ร้อยกว่าปีมาแล้ว ที่ก๊กนักวิทยาศาสตร์พบหลอดไส้ แต่น่าเสียดายว่ามันเป็นเพียงแค่แนวคิดทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังไม่สมรรถทำได้จริง ตราบเท่าที่ โทมัส เอวา เอดิสัน ก็ได้นำแนวความคิดที่ว่านี้ มาเจริญต่อจนประสบอธิคม และในยุคสมัยต่อมา เขาก็รอบรู้ค้นเจอวิธีการสร้าง หลอดไฟ หลอดแรก ของโลก เพราะเป็นหลอดไส้ ที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งต่อมาก็ได้รับความชอบไปทั่วโลก แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องตรงที่ว่า หลอดไส้ของโทมัสสามารใช้งานได้ช้านานที่สุดแค่ 13 ชม. เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาจึงคิดค้นวิธีที่จะทำให้มีระยะการใช้งานที่เจ็ดชั่วโคตรขึ้น พร้อมด้วยในที่สุดก็ได้พัฒนาเป็นหลอดไส้แบบทังสเตนที่ทำเป็นทนความร้อนได้สูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส เป็นเหตุให้ใช้งานได้เป็นเวลายาวนานขึ้นจาก 13 ชม. เป็น 1,000 - 3,000 ชม.
ยุคหลอดก๊าซปรอท หลอดไฟยุคกลาง (ประมาณ 80 ปี โดยประมาณ) หลอดก๊าซปรอทหรือไม่ก็เรียกง่าย ๆ ว่า หลอดนีออน หรือว่าหลอด ฟลูออเรสเซนต์ และที่เรียกว่าหลอดก๊าซเพราะบรรจุก๊าซไว้ข้างใน ลัทธิง่าย ๆ ของหลอดประเภทนี้คือ การใช้กระแสไฟไหลผ่าน บัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ (คุ้น ๆ ใช่มั้ยหล่ะ) เพื่อกระตุ้นให้ก๊าซในปรอท เกิดการไปและปลงพลังงานออกมา 2 อย่าง ด้วยกัน นั่นคือ ความร้อนด้วยกันแสงสว่าง แต่เนื่องด้วยแสงที่ได้ยังเป็นอันตรายต่อการสังเกตเห็นของมนุษย์ จึงจำเป็นต้องมาสารเคลือบฟอสฟอรัส ที่มาเคลือบที่ผิวหลอดข้างใน ด้วยว่าให้เกิดเป็นปรากฎการณ์เรืองแสง และหลอดฟลูออเรสเซนต์ ก็เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกจนถึงประจุบัน จะมีเยอะแยะขนาด ตั้งแต่รุ่น T10 จนพัฒนามาเป็น T8 และปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ T5 กันบ้างแล้ว
** คำว่า T10 ตกว่าขนาด 10 หุ้น หมายเหตุ 1 นิ้ว มี 8 หุ้น T8 คือขนาด 8 หุ้น หรือคือขนาด 1 นิ้วพอดี T5 หรือขนาด 5 หุ้น ประมาณ 1/2 นิ้วกว่าๆ หลอดฟลูออเรสเซนต์ได้เริ่มใช้กัน ปี 1940 จนมาถึงสมัยนี้ พลังการให้แสงสว่างอยู่ในระดับปานกลาง รกินไฟ กลาง แต่ติดตรงที่ ต้องใช้ปัลลาสต์ พร้อมกับบัลลาสต์ ใช้ไฟสูงถึง 10-12 W
ยุคปัจจุบัน ยุค LED ชื่อเต็มคือ Light Emitting Diodeหลอดไฟ LED ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ สิ่งของระเบียบแสงสว่าง ที่ตอนนี้กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบแสงสว่างใหม่ ของคนทั้งโลก เป็นการเจริญจากแง่มุมของสารกึ่งตัวนำ ไดโอด พร้อมกับหลอดไฟ LED มีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จนสมัยปัจจุบันกลายเป็นหลอดไฟที่ออมอดไฟ และอัจฉริยะ ทำได้ทำงานได้มากหน้าหลายตาฟังก์ชั่น ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหลอดไฟอย่างเดียว แต่ยังสามารถเข้าไปอยู่ในหน้าจอทีวี ป้ายไฟต่าง ๆ และอีกมายมาย และยังพ้นภัย ปราศจากการปล่อยความร้อน พร้อมด้วยแสง UV ให้กำเนิดมาอีกด้วย
ในปัจจุบันนี้หลอดไฟก็ได้ถูกจัดเป็น 1 ในที่ 5 เทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ยอดของโลก ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวมาผันกบิลไฟฟ้าของชาติ ในไม่กี่ปีที่จะถึงนี้และสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างถ่องแท้ รอจับตาดูกันนะคะ ว่าจะเพิ่มพูนไปได้ไกลแค่ไหน ^^
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
หลอดไฟภาษาอังกฤษเครดิตบทความจาก :
http://evening-iae-aix.com/index.php?topic=104243.new#newTags : หลอดไฟภาษาอังกฤษ