ผู้เขียน หัวข้อ: แนะนำป้องกัน รักษาโรคตุ่มที่อวัยวะเพศ ผลกระทบจากการใช้ยา ติดต่อได่  (อ่าน 295 ครั้ง)

Boyzite1011

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2149
    • ดูรายละเอียด
ด้วยยารักษาหูดหงอนไก่ แนะนำป้องกัน รักษาโรคตุ่มที่อวัยวะเพศ พร้อมให้คำแนะนำ ติดต่อได่
สวัสดีครับ ในบทความก่อนๆได้ชี้แนะในเรื่องของตัวยารักษาโรคหูดหงอนไก่กันไปแล้ว แม้กระนั้นก็ยังมีปัญหาสำหรับคนจำนวนไม่น้อยเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เอื้อต่อการรักษาและก็เสริมสร้างภูมิต้านทานสำหรับเพื่อการขัดขวางโรคนี้ บางคนหายแม้กระนั้นก็กลับไปติดโรคใหม่ได้ง่าย และก็บางคนใช้เวลาในการรักษานานนับเดือนถึงหลายๆเดือนเพราะว่าสภาพการณ์ร่างกายไม่ได้พักอย่างเต็มเปี่ยม สถานการณ์เครียด ตัวยาก็เลยปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ บางคนที่ไปพบหมอบางครั้งก็อาจจะได้ยามารับประทานเพิ่มซึ่งก็คืิอตัวยาที่ช่วยเกี่ยวกับสภาวะกลุ่มนี้นั่นเองขอรับ ส่วนตัวยารักษาโรคนี้โดนตรงจะเป็นยาชนิดทานะนะครับไม่ใช่ยารับประทาน ผมจึงเสนอแนะว่าแม้ให้ได้ผลดีและก็มีคุณภาพจำเป็นต้องทานวิตามินเสริมและบริหารร่างกายพร้อมกันไปด้วยรวมทั้งการพักผ่อนนะครับ
ส่วนนี้จะมาแนะนำสำหรับคนที่ใช้ยาทาอยู่ไม่ว่าจะจำพวกใดก็ตาม สามารถหาซื้อวิตามินรวมบำรุงร่างกายกลุ่มนี้จะมีขายตามร้านขายยาใหญ่ๆครับผม ราคาบางครั้งอาจจะสูงหน่อยแต่ว่าผลดีที่ได้เห็นได้ชัดขอรับ

1 ฟาร์มาตอน

 
 
2 เซนทรัม                                                                                                                                             
 


3. แบล็คมอร์ มัลติวิตามิน



 
 
 
ตัวยาเหล่านี้ให้เลือกทานเพียง 1 ตัวเท่านั้นนะครับ ไม่จำเป็นต้องทานตลอด แต่ช่วงที่เป็นโรคหูดหรือกำลังรักษาคือช่วงที่สภาวะร่างกายมีปัญหาภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองอย่างเต็มที่  สามารถทานควบคู่กับยาทาจนกว่าหูดหงอนไก่จะหลุดออกและหายสนิทครับ 
การดูแลตนเอง เพื่อคุ้มครองการแพร่
- สวมเสื้อผ้าที่ปกคลุมรอยโรค เพื่อคุ้มครองการเกาจากตนเอง รวมทั้งเพื่อคุ้มครองปกป้องการสัมผัสรอยโรคสู่คนอื่น รอยโรคนอกร่มผ้าให้ใช้พลาสเตอร์กันน้ำแปะ
- งดการใช้สระว่ายน้ำขณะมีรอยโรค หรือถ้าต้องให้ปกคลุมรอยโรคไว้ด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ
- ไม่ใช้ข้าวของส่วนตัวร่วมกับคนอื่นๆ เช่น ฟองน้ำ ผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดตัว เสื้อผ้า
- ไม่มีความจำเป็นต้องหยุดงาน หรือ หยุดโรงเรียน เพียงแค่ปกคลุมรอยโรคด้วยเสื้อผ้า และ พลาสเตอร์ดังที่กล่าวถึงแล้ว
- ชำระล้างเสื้อผ้าที่สัมผัสรอยโรคด้วยการซักด้วยผงซักผ้า หรือน้ำยาซักผ้าตามเดิม
- เมื่อสัมผัสรอยโรค ให้ล้างมือด้วยสบู่ล้างมือ หรือถ้าไม่มีที่ล้างมือ ให้ใช้เป็นแอลกอฮอล์ประเภทเจลชำระล้างมือได้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ได้มีเพียงแต่โรคเอดส์เท่านั้น แถมยังพบคนไข้เยอะมากๆขึ้นทุกปีอีกด้วย จากสรุปรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประจำปี 2557 จากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข พบว่า
ซิฟิลิส
อาการ : มีตุ่มแดงแตกออกเป็นแผลที่อวัยวะเพศ ตรงบริเวณที่เชื้อเข้า หรือบางทีอาจพบที่อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด หรือริมฝีปาก แผลบางทีอาจไม่เจ็บ แล้วก็หายเองด้านใน 1-5 สัปดาห์ แต่เชื้อยังอยู่ในกระแสเลือด หากปล่อยถัดไปอาจมีผื่นสีน้ำตาลขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ไม่คัน หูดขึ้นรอบๆอับชื้น ดังเช่น รักแร้ ทวารหนัก ขาหนีบ หรืออาจผมร่วงเป็นหย่อมๆถ้าหากร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆเชื้ออาจทำลายอวัยวะภายใน ยกตัวอย่างเช่น หัวใจและก็หลอดเลือด สมอง ตาบอด หรือกระดูกหักง่าย
โรคหนองใน
อาการ : มีลักษณะระคายที่ท่อเยี่ยว ปวดแสบเมื่อเยี่ยว มีหนองสีเหลืองไหลออกมาจากท่อเยี่ยว หากเป็นสตรีอาจมีตกขาว หรือเลือดผิดปกติ
หนองในเทียม
อาการ : เป็นการอักเสบของท่อเยี่ยวที่เกิดเชื้อโรคที่ไม่ใช่หนองในแท้ อาการที่พบคล้ายโรคหนองใน คือหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศ และก็ปวดแสบร้อนเมื่อเยี่ยว ผู้ชายอาจรู้สึกเจ็บปวดถ่วงที่อวัยวะเพศ รวมทั้งอัณฑะอักเสบ หญิงอาจฉี่ขัด ตกขาว ปวดท้องน้อย รวมทั้งเลือดออกเมื่อมีเพศสัมพันธ์
โรคแผลริมอ่อน
อาการ : พบตุ่มนูน และก็เจ็บบริเวณเส้นสองสลึง ต่อจากนี้จะมีแผลเล็กๆก้นแผลมีหนอง ขอบแผลนูนไม่เรียบ นุ่ม ไม่แข็ง ผู้ชายจะเจ็บมาก แต่เพศหญิงอาจไม่เจ็บ จึงทำให้เกิดการติดต่อสู่ผู้อื่นได้ง่าย ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต กดเจ็บ ถ้าเกิดแตกเป็นหนองจะเรียกว่าฝีมะม่วง
โรคฝีมะม่วง
อาการ : มีแผลที่อวัยวะเพศ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต มีหนองไหลออกมา นอกจากนี้ยังมีลักษณะอาการท่อเยี่ยวอักเสบ รวมทั้งอาจมีหนองและเลือดออกมาจากรูทวาร เมื่อปวดเบ่งอุจจาระ
ที่น่าตกใจคือ พบว่าคนป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ในช่วงอายุ 10-24 ปีเท่านั้น และก็อยู่ในอัตราสูงอีกด้วย ด้วยเหตุนี้นอกเหนือจากเพศผู้อ่านเองแล้ว ควรหมั่นตรวจความประพฤติลูกหลานของท่าน ให้รู้จักการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อคุ้มครองปกป้องโรค และการมีท้องก่อนวัยอันควรจะด้วยนะคะ
หูดหงอนไก่ในโพรงปาก
เวลาเรากล่าวเรื่องออรัลเซ็กซ์กับความเสี่ยง สิ่งที่ต้องควรทราบก่อนเลยก็คือ การเสี่ยงต่างๆนั้น ขึ้นกับสาเหตุ ดังต่อไปนี้ ความถี่ของการทำออรัลเซ็กซ์ มีการหลั่งในปากไหม ผู้กระทำนั้น มีบาดแผลในปากหรือไม่
เนื่องจากการทำออรัลเซ็กซ์ จะเป็นตัวนำพามาทุกโรคเลย ตั้งแต่ หูด โรคหนองใน ซิฟิลิส รวมถึง ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง ถ้าเกิดผู้ที่ทำมีรอยแผลในช่องปาก และใช่ว่าผู้ถูกกระทำจะไม่เสี่ยง ใช่ล่ะที่ว่า ผู้ถูกกระทำจะมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องน้อยกว่า แต่ว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณสามารถติดได้เหมือนกันนะ ถ้าแบบนั้น พวกเราทดลองลงในรายละเอียดกันดีกว่าว่าจะเอาไงดี
- ถ้าเกิดทั้งคู่ ไม่รู้จักกันมาก่อน สิ่งที่จำต้องทำคือ จะต้องใส่ถุงยางสำหรับเพื่อการทำออรัลเซ็กซ์ ไม่มีความเอาใจใส่ หรือเผลอมิได้เชียว
แม้เป็นคนรักกัน ก่อนจะมีอะไรกันคราวแรก ควรหาช่องทางคุยกันสักหน่อย ถึงหัวข้อการเสี่ยง อันนี้รวมหมดทั้งสิ้นศสัมพันธ์ทางตรงรวมทั้งทางอ้อม และก็พากันไปตรวจก่อนมีอะไร จะเหมาะสมที่สุด เพราะเหตุว่าเมื่อเราทั้งคู่ตรวจและไม่เป็นอันตรายและก็ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสโมสร และไม่มีเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องแล้วล่ะก็ ตกลงกันว่าจะซื่อตรงต่อกัน ไม่นอกใจ (อันนี้สำคัญนะ) เท่านี้ คุณและเขาสามารถร่วมเพศกันได้โดยสวัสดิภาพ
ผู้ที่ถูกทำ (หรือเรียกแบบน่ารักๆว่า เจ้าของจู๋) มีสิทธิ์ที่จะได้รับการติดต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากคอของผู้ครอบครองปาก ถ้าเกิดเขามีโรคเหล่านั้นอยู่ในโพรงปากรวมทั้งช่องคอ
ผู้ที่ทำ หรือผู้ครอบครองปาก กรณีนี้ เสี่ยงเอชไอวี ถ้าผู้ครอบครองปากมีแผลในปาก แล้วเจ้าของจู๋มีเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง พี่เป้าฝากย้ำมาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสโมสร เพราะว่าสิ่งนี้จะเป็นการติดต่อกันไปมาได้ง่ายอย่างยิ่งๆแล้วก็ออรัลเซ็กซ์นี่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการติดโรคได้มากที่สุด โดยเฉพาะ การหลั่งในปาก คือความเสี่ยงสูงของการติดเชื้อ
อย่าคิดว่าการแปรงฟันก่อนหลังทำ จะทำให้เราปลอดภัย เพราะเหตุว่านั่นแหละ ยิ่งทำให้เราเสี่ยง เพราะว่า บางที่เราแปรงฟัน กำเนิดถูเหงือกช้ำหรือเป็นแผลเข้า โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว หรือแม้แต่การอมน้ำยาบ้วนปาก ก็ไม่เวิร์คเช่นเดียวกัน เนื่องจากน้ำยาเป็นกรด ก็ทำให้บาดแผลเล็กในโพรงปากเราเกิดการกระเทือน ที่นี้ แนวทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด ก็ไม่ได้ยากอะไรแค่ บ้วนปากด้วยน้ำที่สะอาดก็เพียงพอแล้วจ้ะ
- ต่อไปนี้ คนไม่ใช่น้อยบอก ใส่ถุงยางแล้วมันจะสนุกสนานได้อย่างไร แถมมีรสมีกลิ่นแปลกของถุงยางอีก อันนี้ขอให้ทุกท่านเลือกปรับทัศนคติ อารมณ์ ตามความชอบเฉพาะบุคคล การที่บริษัทมากหมายออกถุงยางอนามัยรสส้ม รสสตรอคอยเบอปรี่ มาก็เพื่อเอาอกเอาใจด้านนี้โดยเฉพาะเลย ด้วยเหตุนี้ ก็ทดลองๆเลือกที่เหมาะสมกับพวกเรามองนะ
น้องๆที่ดัดฟันทั้งหลาย หรือน้องๆที่เจาะลิ้น เจาะปาก ขอให้ระวังนิดเดียวเวลามีเซ็กส์ทางปาก เพราะเหตุว่า อาจมีกรณีของลวดที่ไปเกี่ยวถุงยางขาดได้
หนุ่มที่ติดลิปมัน อย่าทาลิปมันเวลาทำออรัลนะจ๊ะ เนื่องจากลิปมันมีส่วนผสมของน้ำมัน แล้วเพียงพอสัมผัสมากมายๆกับถุงยาง อันนี้จะทำให้ถุงยางอนามัยแตกได้
ข้อในที่สุด ขอฝากวิธีการใส่ถุงยางอนามัยด้วยปาก วิธีนี้ทำให้คู่ของพวกเราพอใจได้ ก็ด้วยการใช้มุมปากเม้มปลายถุงยางไว้ แล้วก็ใช้ปากพวกเรารูด สิ่งจำเป็นเป็นต้องเม้มปลายถุงยาง มิเช่นนั้นบางทีอาจแตกได้
ปัจจัยหลักที่ใช้ยาแล้วไม่ได้เรื่อง
1. aldara cream อย่างที่รู้กันว่าเป็นตัวยาเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เริ่มเป็นระยะแรกๆ2-4 สัปดาห์ ช่วงนี้ถ้าเกิดรู้สึกตัวไวรวมทั้งรีบรักษาจะสำเร็จไวมากมาย แม้กระนั้นบางคนรอกระทั่งเป็นมากมายแล้วมาเริ่มป้ายยา ด้วยฤทธิ์ของยาที่อ่อนมากๆจึงไม่สามารถที่จะช่วยให้หูดที่เป็นติ่งหลายๆติ่งหลุดออกได้ ระยะนี้ผมก็เลยชี้แนะว่า ให้ใช้เป็นยา wart control ไปแต้ม podo ที่ โรงพยาบาล หรือไวสุดก็ทำจี้ไฟฟ้า เลยครับจะสมควรกว่า
2. แค่ลองสั่งไปเทส มีหลายท่านครับผมต้องการรักษาหวังผลให้หาย แต่ต้องการเซฟค่าครองชีพทดลองสั่งยา aldara ไปเทสดูก่อน 1 ซอง เนื่องจากว่ากลัวแพงและไม่อยากจ่ายมาก ตรงนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจขอรับว่า ยา aldara จริงๆแล้วนั้น 1 ซองเล็กๆนั้นทำมาให้ใช้เพียง 1 ครั้งแค่นั้น มีปริมาณเพียงแค่ 250mg ซึ่งน้อยมากๆเล็กเท่าไปรษณียากรดวงเดียวแค่นั้น สำหรับผู้ที่เป็นน้อยๆอาจแบ่งใช้ได้ 2-3 ครั้ง ซึ่งคงยังน้อยเกินไปที่จะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตาม ผมจึงชี้แนะว่าถ้าคิดจะรักษาแล้วลองใช้ก่อนขั้นต่ำๆ3 ซอง จะได้ผลว่าดีขึ้นหรือเปล่าและก็หลังจากนั้นจึงค่อยตกลงใจต่อว่าต่อขานจะใช้ต่อหรือเปลี่ยนแนวทางรักษา แล้วหลายท่านไม่เคยทราบว่ายา aldara สามารถใช้ทาได้ถึง 16 อาทิตย์ครับ ก็เลยต้องการให้มีความรู้สึกว่าพวกเรายอมเสียตังค์เข้าโรงหมอหาแพทย์ หรือซื้อยารักษาตั้งแต่ช่วงแรกๆดีมากยิ่งกว่าปล่อยไว้รอคอยจนกระทั่งลามมากแล้วทีนี้เสียแพงเท่าไรก็จำเป็นต้องยอมจ่ายและก็การรักษาก็ยากกว่าด้วยครับผม
3. ยังมีการกระทำการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่รักษาความสะอาด ทานเครื่องดื่มแอลกอฮอลมาก และพักผ่อนน้อย ที่ตรงนี้สำคัญขอรับเพราะนอกจากตัวยาจะสามารถมีส่วนช่วยให้เราหายแล้วการดูแลตนเองพร้อมกันไปด้วยก็สำคัญครับ เพราะโรคนี้เป็นเชื้อไวรัส ฉะนั้นภูมิต้านทานเราก็เลยมีส่วนสำคัญสำหรับเพื่อการต่อต้านโรคหูดหงอนไก่ หรือ เชื้อHPV ครับ ลำพังถ้าร่างกายห่วยแตกถึงจะมียาดีขนาดไหนก็เท่านั้นครับ
มาถึงความนึกคิดที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมีความคิดว่ามันจะหายเองโดยไม่รักษานะครับจำต้องบอกเลยว่าสำหรับผู้ที่หายเองถามคำถามว่ามีมั้ย ก็มีนะครับ แม้กระนั้นส่วนน้อยมากๆไม่ถึง 20% ครับผมแล้วคนที่หายเองส่วนมากน่าจะหายตั้งแต่ระยะแรกๆที่หูดยังไม่รุกลาม แต่ว่าดังนี้ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นมาใหม่อีกครับผม ผมก็เลยเสนอแนะว่าหากเป็นโรคนี้แล้ว อย่ารอครับ ถ้าเกิดสงสัยหรือเปล่าแน่ใจเจอแพทย์ให้วินิจฉัยหรือตรวจหารอยโรคดีมากกว่านะครับ เพราะเหตุว่าถ้าหากรอจนกระทั่งหูดลามแล้วพึ่งจะเริ่มรักษานับว่าเสียโอกาสและก็เป็นการเสียเวลาไม่คุ้มครองเลยครับผม เพราะเหตุว่าทีแรกๆรักษาหายได้ง่ายสุดๆๆครับ

หลีกเลี่ยงการใช้ยาบริเวณริมฝีปาก ดวงตา และจมูก
ไม่ควรปิดผิวหนังบริเวณที่ทายาด้วยผ้าพันแผลหรือพลาสเตอร์




ควรรีบเรียนรู้จัก ศึกษา ตรวจสอบรักษา การป่วยเป็นโรคหูดหงอนไก่อย่างถูกวิธี โรคหูดหงอนไก่ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดหูดหงอนไก่ wart no more จะได้ป้องกันตัวเองไม่ให้กลายเป็นโรค
การดูแลตนเองในระหว่างการดูแลและรักษาหูดหงอนไก่

  • ติดตามการดูแลรักษาโดยการมาพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
  • หมั่นตรวจอวัยวะเพศของตนเพื่อหารอยโรคอยู่เป็นประจำ
  • งดเว้นการมีเซ็กส์ในระหว่างการดูแลและรักษา แต่ว่าแม้มีความจำเป็นก็ควรจะใช้ถุงยางด้วยทุกครั้ง เพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อ
  • ควรจะล้างมือให้สะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์เป็นประจำเป็นประจำ และก็แม้สัมผัสรอยโรคให้ล้างรอบๆที่สัมผัสแล้วก็ล้างมือให้สะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์
  • รักษาสุขอนามัยฐานรากให้ครบ ดังเช่นว่า การดูแลรักษาร่างกายรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ให้สะอาด, ล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ, ทานอาหารที่สุกสะอาด, งดการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ใช้สิ่งเสพติด แล้วก็การสำส่อนทางเพศ, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, ทำจิตใจให้อารมณ์เบิกบาน เป็นต้น
  • ในรายที่มีหูดหงอนไก่ขึ้นหลายแห่ง หรือเป็นๆหายๆอยู่เป็นประจำควรไปตรวจเลือดเพื่อมองว่ามีการติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV) หรือเปล่า
  • ในสตรีที่เป็นหูดหงอนไก่รอบๆปากมดลูก บางทีอาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องหรือมีความประพฤติปฏิบัติเสี่ยงมากขึ้น ดังเช่น ดูดบุหรี่หรือรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นเวลานาน อื่นๆอีกมากมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าว จะต้องหาทางหลีกเลี่ยงความประพฤติปฏิบัติเสี่ยงพวกนี้ และก็ควรตรวจหาโรคมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกเริ่มอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • ในระหว่างการดูแลรักษาหูดหงอนไก่ ถ้าเกิดผู้ป่วยมีลักษณะไม่ดีเหมือนปกติ ดังเช่นว่า ผิวหนังบริเวณที่ทำงานรักษามีลักษณะอาการเจ็บ แดง ระคายเคืองเป็นบริเวณกว้าง หรือคนป่วยมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในอาการที่เป็นอยู่ ควรจะรีบไปพบแพทย์ก่อนนัดเสมอ
ต้องการสั่งยารักษาหูดหงอนไก่ การรักษาหูดหงอนไก่


3. แจ้งโอน + ที่อยู่ และหลักฐานการโอนครับ
กรุงเทพ และ ปริมณฑล 1 วันทำการ
 

 
ต้องการคำแนะนำของแพทย์ป้องกันโรคได้
Line id :  nitipon998



Tags : ยารักษาหูดหงอนไก่

 

Sitemap 1 2 3