ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีที่เหมาะกับธุรกิจของท่าน  (อ่าน 327 ครั้ง)

lnwneverdie2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 370
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบัน SME หลายบริษัทต่างคัดเลือกกรรมวิธีที่จะสร้างศักยภาพในธุรกิจและประหยัดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ เพื่อสามารถต่อสู้และอยู่รอดในยุคที่เศรษฐกิจซบเซาอย่างในตอนนี้ การเปลี่ยนมาใช้ ซอฟแวร์โปรแกรมบัญชีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยประหยัดต้นทุน แต่กระนั้น software มีจำนวนมากหลายเจ้า จะตัดสินใจเลือกอย่างไรจึงจะคุ้มกับเงินลงทุนที่จ่ายไป เราจึงอยากขอชี้ช่องข้อควรพิจารณาเพื่อเป็นวิธีให้ท่านเลือกโปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับบริษัทของคุณ ดังนี้ครับ

1.อุตสาหกรรม
กิจการของคุณอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านค้าขายปลีก กลุ่มผู้ผลิต หรือธุรกิจให้บริการ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรม ก็มีรูปแบบการบันทึกบัญชีที่ไม่เหมือนกัน ขณะเดียวกันนักพัฒนาซอฟแวร์จะดีไซน์โปรแกรมบัญชีให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทธุรกิจ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ดีกับอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทเหมือนกัน แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีที่มีรูปแบบการใช้งานเข้ารูปกับบริษัทคุณ หรือมีส่วนเบ็ดเตล็ดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น บริษัทก่อสร้าง โรงงานผลิต และศูนย์กระจายสินค้า ควรจ้างเขียนออกแบบโปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับธุรกิจคุณจะดีกว่า
2.ขนาด ร้านค้า
รายละเอียดปลีกย่อยของการทำบัญชีจะมีความซับซ้อนมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของ ร้านค้า คุณอาจจะใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ ร้านค้าที่มียอดขาย 1 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าบริษัทมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีความซับซ้อนทางบัญชีเพิ่มขึ้น โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถรองรับระบบได้ ดังนั้นควร ตัดสินใจเลือกให้เข้ากับขนาด และสามารถที่จะอัพเกรดวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย
3.ฟังก์ชันอะไรบ้างที่ต้องการใช้งาน
ก่อนการ ตัดสินใจเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรซักถามว่ามีส่วนใดหรือโมดูลอะไรที่กิจการท่านจำเป็นต้องใช้งาน ควรลิสความต้องการ คุณลักษณะ หรือรูปแบบที่อยากได้เป็นหัวข้อเสียก่อน บางร้านค้าอาจจะต้องการการเข้าถึงที่ไม่ยาก หน้าต่างโปรแกรมไม่ซับซ้อน ขณะที่บริษัทอื่นอาจจะต้องการอินเตอร์เฟสในการชำระเงินออนไลน์ หรือการใช้ credit card หรือการจัดการสินค้าคงคลัง หรือสร้างดัดแปลงแก้ไขใบ invoice เองได้ ดั้งนั้นควร ซื้อโปรแกรมบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้ และเหมาะสมกับร้านค้าท่าน อย่าเสียเงินให้กับส่วนเสริมที่ไม่จำเป็น
4.การบริการ
เวลาที่ท่านมีอุปสรรคใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัทตัวแทนสามารถซับพอร์ท แก้ปัญหาได้รวดเร็วเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ง่ายสะดวก น่าไว้วางใจหรือไม่ มีศูนย์ดูแลในพื้นที่หรือไม่ และที่สำคัญตัวแทนพวกนั้น มีผู้ชำนาญการด้านบัญชี คอยให้ข้อเสนอแนะคุณหรือไม่ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถ หาได้ จากอินเตอร์เน็ต หรือซักถามบริษัทที่อยู่อยู่ใกล้ๆ กันดูได้
5.งบในการซื้อ
งบประมาณจะเป็นปัจจัยประเด็นหลักที่มีผลต่อการ เลือกโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีแบบเบสิคจะมีมูลค่าที่ไม่แพงมากนัก แต่ถ้าคุณอยากได้โปรแกรมบัญชีรูปแบบเฉพาะที่ดีไซน์ฟังก์ชันการใช้พิเศษ คุณคงต้องลงทุนสูงกว่าแน่นอน และก่อนจะตัดสินใจซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำตารางวิเคราะห์ความคุ้มค่าขั้นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินจริง หรือไม่คุ้มค่ากับการใช้งาน
6.โปรแกรมบัญชีมีระยะเวลาทดลองใช้หรือไม่
จะดีมากถ้าท่านได้รับโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะซื้อจริง เพราะจะทำให้รู้ข้อดีข้อเสียต่างๆ ทั้งเรื่องความสะดวกในรูปแบบต่างๆ ปัญหาที่พบ การใช้งานฟังก์ชันระบบต่างๆ เหมาะสมหรือไม่ เพราะฉะนั้น ก่อน เลือกซื้อซื้อสอบถามกับบริษัทซอฟแวร์ว่ามีตัวทดลองใช้ฟรีหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปจะให้ใช้ฟรี 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว
ในที่สุดแล้วควรไต่ถามธุรกิจอื่นๆ ที่ท่านรู้จักเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่อยู่ในความสนใจ อย่างน้อย 3 ร้านค้า ควรไถ่ถามเกี่ยวกับอุปสรรคการใช้งาน ปัญหาที่พบจากการใช้งาน อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการดูแลและให้คำปรึกษาของบริษัทซอฟแวร์เป็นอย่างไร ทั้งนี้หากเป็นไปได้ควรซื้อโปรแกรมบัญชีที่ติดอันดับ มีธุรกิจใช้จำนวนมาก ซึ่งจะปลอดภัยมากกว่า

เครดิต : http://thanatongjin.edublogs.org/2015/07/02/%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b4/

Tags : โปรแกรมบัญชี,โปรแกรมบัญชีออนไลน์,โปรแกรมบัญชีใช้งานฟรี

 

Sitemap 1 2 3